Learn Driving at Chonburi Driving Course : เรียนขับรถยนต์ที่ชลบุรีสอนขับรถยนต์

บันทึกการเรียนขับรถ สมัครวันที่ 08/05/2555 เรียน วันที่ 09/05/2555-17/05/2555

วันที่ 1-09/05/2555 (ชม.ที่ 1-2, อ.ชาคริต) คำแนะนำการใช้รถยนต์ บรรยายโดย อ.ชาคริต อินคง

 การเลือกซื้อรถใหม่

พรบ.ป้ายแดง ให้สังเกตดูว่า มี "ขส" บนป้ายทะเบียนหรือไม่ (มีลักษณะนูนออกมา) ถ้ามีแสดงว่ารถนั้นจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย

รถป้ายแดง สามารถนำมาใช้ได้ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตกเท่านั้น แต่ถ้าต้องการเดินทางในเวลามืดต้องขออนุญาตจากนายทะเบียนที่ขนส่ง

ถ้าซื้อที่ชลบุรีป้ายทะเบียนต้องชลบุรี เว้นแต่ท่านต้องการทะเบียน กทม. สามารถสอบถามจากผู้จำหน่ายรถ

ต้องมีสมุดคู่มือให้ และให้ตรวจสอบข้อมูลดังต่อไปนี้

1.สีรถ ต้องตรงกับคู่มือ

2.หมายเลขตัวถัง ต้องตรงกับคู่มือ ลอกได้ โดยใช้กระดาษไปวางแล้วขูดให้เป็นรอย

3.ยี่ห้อเครื่องยนต์ตรงกับสมุดคู่มือและตรงกับรถยนต์

4.จำนวน ซีซี หรือพลังสูบ

5.หมายเลขเครื่องยนต์อยู่บริเวณฝาครอบวาล์ว

6.ประเภทของเชื้อเพลิงที่ใช้ เช่นรถเก๋ง ใช้เบนซิน

7.จำนวนล้อ 4 ล้อ 2 เพลารถเก๋ง 4 ล้อ 2 เพลารถปิคอัพ

8.ถ้าซื้อเงินสดต้องเอารถไปโอนที่ขนส่งจะได้ทะเบียนป้ายดำภายใน 3-6 วัน ถ้าเงินผ่อนต้องรอสักระยะ

9.พรบ.คนที่ 3 ปีละ 800 บาท (กฎหมายบังคับ) จดทะเบียนและเสียภาษี กรณีเสียชีวิต 50,000-80,000 บาท บาดเจ็บ 19,000 บาท

10.ถ้าซื้อรถแล้วแถมประกัน 1 ปี (กฎหมายไม่บังคับ)

11.พรบ.และทะเบียนรถ ต้องจ่ายพร้อมกัน ถ้าขาดต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

12.ภาษีเสียก่อนได้ 3 เดือน

13.รถใหม่ 1-7 ปีไม่ต้องตรวจสภาพรถ ถ้าเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพรถโดย สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.)

14.ความหมายของสีบนเลขทะเบียนรถ

                  ดำ - รถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน

                  เขียว - รถกระบะบรรทุกส่วนบุคคล

                  น้ำเงิน - รถนั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน

                  เหลืองหรือแดง - รถประจำทาง ต้องขอสัมปทาน

15.คู่มือรถ ต้องอ่านเพื่อการบำรุงรักษา ทราบว่าอะไรอยู่ตรงไหน

16.เวลาเข้าปั๊ม ห้ามสูุบบุหรี่ ห้ามใช้โทรศัพท์ ปิดเครื่องเสียง และดับเครื่อง

17.ประเภทน้ำมัน

- เบนซิน E1,E2

- แก๊สโซฮอล์ 95 ผสมมาจากเอทานอล

- เบนซิน ต่างกันที่ค่าออกเทน

ตัวดีเติมตัวแย่ลงไป รถมีปัญหา (อย่าเติมต่างสายพันธุ์) ต้องเติมน้ำมันปั๊มใหญ่ๆ

- เกย์น้ำมันมีกี่ขีด

- ดูสายเติมน้ำมันให้ตรง อย่าให้พับ

- ดูเด็กปั๊มแล้วตรวจสอบด้วยสายตามองว่าเกย์เริ่มตัวเลขที่ 000.00 หรือไม่

การตรวจสภาพรถก่อนใช้งาน

1.หม้อน้ำ น้ำยาอะไรหล่อเย็น (น้ำสะอาดเครื่องเย็น) สีแดงหรือสีฟ้า หรือน้ำ อย่าใช้น้ำในสายยางใส่ลงไป น้ำบาดาล ห้ามเติมหม้อน้ำ* เคยมีในข้อสอบ

2.น้ำยาฉีดหน้ากระจกรถ ไม่แห้ง เบรคและคลัช

3.เกย์ความร้อน น้ำแห้งหรือไม่ ถ้าสายพานขาดอย่าดับเครื่องให้ติดเครื่องไว้น้อยๆ

4.สายพาน ตรวจโดยใช้นิ้วกดถัง

5.น้ำมันเครื่องปกติ ต้องมียาง ถ้าไม่มียางรถพัง ต้องอ่านสลากกระป๋องถ้าใช้เบนซิน ต้องเบนซินตลอด

 การถ่ายน้ำมันเครื่อง

1.เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ

2.น้ำกลั่น ที่แบตเตอรี่มีน้ำกลั่น 6 ช่อง ห้ามเต็ม ห้ามวางฝามั่วเพราะมีกรด

3.มีขั้วบวก-ลบ ถอดขั้วลบต้องถอดขั้วลบ ถ้าติดตั้งท่อไอเสียจะเสีย

การเชื่อมแบตเตอรี่ (กรณีมีคนมาขอความช่วยเหลือ)

1.อย่าสตาร์ทเครื่องก่อนหนีบที่แบตเตอรี่

2.เชื่อมไฟฟ้าต้องระวัง

น้ำมันพาวเวอร์

1.พวงมาลัยพาวเวอร์ต้องเติมน้ำมัน

2.พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าไม่มีน้ำมัน

3.ถ้าพวงมาลัยพาวเวอร์ไปเปลี่ยนเป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าไม่ดี

เบรคและคลัช

1.น้ำมันเบรคใช้ยี่ห้อเดิมมาเติมอย่าใช้ปนกัน

2.เบรคแตกให้เอาน้ำมาล้างทันที

3.ต้องตรวจน้ำมันเบรค และสายเบรค หม้อน้ำมี 2 ใบอย่าเติมน้ำเต็ม

ล้อยางรถยนต์

1.ปกติใช้งาน 40,000 กิโลเมตร / 2 ปี จะมีแจ้งติดไว้ตรงข้างประตูหน้า

2.เติมลมให้เหมาะสมกับการใช้งาน ขับเคลื่อนล้อไหนให้เติมลมไว้

                 รถกระบะ ขับเคลื่อนล้อหลัง

                 รถเก๋ง ขับเคลื่อนล้อหน้า

3.ดูวันผลิตที่ขอบยาง เช่น C01090 - 1 อาทิตย์ของ ค.ศ. นั้น ปี 2009 เดือน 1/วันที่ 7, C47090 - 47 อาทิตย์ของปี 2009

4.ค่าบนขอบยางอื่นๆ เช่น 195/60R15 88V มีความหมาย 195 ความกว้างของหน้ายาว, 60 เปอร์เซ็นต์ความสูง, R15 Radian เส้นผ่าศูนย์กลางล้อรถ, และ 88V น้ำหนักบรรทุก

5.อย่าให้ช่วงกลางเห็นชัด รถจะกระโดด

6.ถ้าล้อแบนไปล้อจะโล้นริม

7.ศูนย์ล้อเสียข้างใดกินยางไปข้างหนึ่ง

8.ล้อหน้ามักโล้นบ่อย โดยมากยางรถจะกินล้อหน้ามาก

ควรสลับยางอะไหล่ที่คนขับ สังเกตดอกยางที่คนขับก่อนจากนั้นเปลี่ยนตำแหน่งดังรูป (ตามลูกศร)

จบคำแนะนำ เริ่มเรียนขับรถ

สอนโดย อ.ชาคริต อินคง ปรับเบาะให้นั่งตรง เท้าเหยียบให้ถนัด สวมเข็มขัดนิรภัย

(ที่สอน) จับแบบเข็มนาฬิกา ที่เลข 10 และเลข 2 มือซ้ายที่ 10 มือขวาที่ 2 อย่าหมุนมือพันกัน

การขับเกียร์ธรรมดาหรือกระปุก เกียร์ 4 ขับได้ 50 กม./ชม., เกียร์ 5 ประหยัดกว่า, เกียร์ 6 แรง

เบรคมือ ให้ดึงขึ้นเวลาจอดรถถาวรเพื่อไม่ให้รถถอยหลัง แต่ถ้าเวลาจอดรถในห้างต้องปลดเบรคมือ

เกียร์ 1 ใช้ออกเกียร์ ต้องเปลี่ยนถ้าไม่เปลี่ยนจะไหม้ จากนั้นเปลี่ยนเป็นเกียร์ 2-3-4 / 3-2

หัดจับเกียร์เปลี่ยนเกียร์ เหยียบคลัช เปลี่ยนเกียร์ เหยียบคันเร่ง-คืนคันเร่ง เหยียบคลัช เปลี่ยนเกียร์

วันที่ 2-10/05/2555 (ชม.ที่ 3-6, 4 ชม. อ.วรรณ)

            2 ชม.แรก หัดให้ควบคุมพวงมาลัยเลี้ยวซ้าย-ขวา (อาจารย์พูดกดดันเรา 555 ไม่เป็นไร เพราะเราขับรถเป็นงูเลื้อยจริงๆ)

            2 ชม.หลัง หัดขับรถเข้าซอง เกียร์ 1 เดินหน้าช้าๆ เกียร์ R เกียร์ว่าง ถอยหลัง

**เหยียบคลัช เปลี่ยนเกียร์ เหยียบคันเร่ง ** สาวพวงมาลัยให้ยาวๆ

วันที่ 3-11/05/2555 (ชม.ที่ 7-8, อ.ชาคริต)

             หัดเลี้ยวซ้าย-ขวาที่เมืองใหม่ เวลาเลี้ยวใช้เกียร์ 2 เหยียบคลัชไม่ค่อยจม อ.แนะนำให้เปลี่ยนไปเรียนเกียร์ออโต้

วันที่ 4-12/05/2555 (ชม.ที่ 9-10, อ.วรรณ)

             ขับที่เมืองใหม่ ตกลงตัดสินใจเปลี่ยนเป็นเรียนเกียร์ออโต้

             พี่โอ๊ตมาสอนการใช้เกียร์ออโต้ที่สนามเรียนก่อน

             จากนั้น อ.วรรณ พาขับรถไปเมืองใหม่ วนอยู่หลายรอบ แล้วออกไปแยกคีรี ออกถนนใหญ่ผ่านขึ้นสะพานทางโค้งออกจากห้วยกะปิ ผ่านเส้นบายพาส มีรถบรรทุกเยอะมาก อ.ถามว่ากลัวไหมรถบรรทุก ได้แต่อมยิ้มแล้วมีสติขับต่อไป เข้าเฉลิมไทยกลับสู่สนามเรียนอย่างปลอดภัย

วันที่ 5-14/05/2555 (ชม.ที่ 11-12, อ.วรรณ 14:30-16:30)

             สอนท่าสอบขับรถ แต่ทำได้ไม่ค่อยดีเพราะง่วงนอนด้วย อ.ไมเกรนขึ้นเลย 555 เนื่องจากคืนที่แล้วคุยกับสามีสุดที่รักดึกไปหน่อย เวลาที่อังกฤษช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมงจ้า

วันที่ 6-15/05/2555 (ชม.ที่ 13-14, อ.วรรณ)

             หัดท่าขับรถแบบถอยหลังเข้าซอง เริ่มจากหมุนพวงมาลัยด้านซ้ายสุดๆ *เปลี่ยนเกียร์ถอย ถอยมองกระจกข้างด้านขวาจนเห็นเสาหลักที่ 3 แล้วหยุด หมุนพวงมาลัยไปทางขวากลับ 2 รอบ ถอยมองทางด้านหน้าข้างซ้ายให้เสาหลักที่ 2 ตรงกลับพวงมาลัย หมุนพวงมาลัยไปทางขวาสุด ถอยมองหลักให้ขนานกับตัวรถ จากนั้น *D เดินหน้าตรงจอดตรงเสาหลักที่ 3 ตรงกับพวงมาลัย หักซ้ายสุด *เปลี่ยนเกียร์ถอย มองหลัง ถอย พวงมาลัยขวาสุด *D เดินหน้า หักมุมเลี้ยวเข้าช่อง อาจารย์ให้หนังสือมาอ่าน 1 เล่มเกี่ยวกับการสอบขอใบอนุญาตขับขี่

วันที่ 16/05/2555 ไปสอบใบขับขี่ข้อเขียนและอบรมการขับขี่รถ

             ไปสอบใบขับขี่ข้อเขียน เข้าอบรมเรื่องการขับขี่รถด้วย ที่สำนักงานขนส่ง ตั้งแต่เช้า 8 โมง - เย็น 4 โมงกว่า กลับบ้าน สอบข้อเขียนผ่าน (มี 30 ข้อต้องได้ 23 ข้อขึ้นไปจึงผ่าน) พรุ่งนี้ค่อยเริ่มสอบภาคปฏิบัติ ติดตามข้อมูลการสอบได้ที่ การสอบใบขับขี่ที่ขนส่ง ชลบุรี

วันที่ 7-17/05/2555 (ชม.ที่ 15-16, อ.วรรณ)

              สอนท่าสอบขับรถท่าที่ 1 ก่อนพาไปสอบที่สำนักงานขนส่ง เทียบท่าเข้าจอดฟุตบาทห่างจากฟุตบาทไม่เกิน 25 เซนติเมตร เหยียบเส้นเหลือง ตอนแรกว่าจะไปสอบเลย แต่อาจารย์บอกว่าท่าที่ 1 เรายังไม่คล่อง แต่ท่าที่ 2-3 คล่องแล้ว ถ้าสอบก็อยากให้ผ่าน หัดตั้งนานหลายรอบ อาจารย์ท่านก็เคี่ยวเข็ญเราอย่างตั้งอกตั้งใจ เพราะกลัวว่าเราไม่ผ่าน ปรากฏว่าท่าที่ 1 ผ่านท่าเดียว แต่วันนั้นรถที่ได้มาสอบพวงมาลัยแข็งมากหมุนไม่ไปเลยเพราะท่าที่ 2 ต้องหมุนพวงมาลัยหลายรอบ ท่าที่ 3 พวงมาลัยต้องตรงและคอยปรับเพื่อไม่ให้รถชนเสา วันที่ 18 เราต้องไปเที่ยวภูเก็ตกับสามีด้วยอีก

วันที่ 24/05/2555 ไปสอบซ่อมภาคปฏิบัติท่าที่ 2 และ 3

               ทางโรงเรียนคอยโทรตามว่าเมื่อไหร่จะมาสอบ แล้วก็นำรถมาให้สอบอีกด้วย สอบซ่อมท่าขับรถ ท่าที่ 2 และท่าที่ 3 (ดันสอบตกท่าที่คล่องแล้วซะงั้น 555) ในที่สุดก็สอบผ่านสักที คุณแม่และสามีมาให้กำลังใจด้วย และต้องขอขอบพระคุณอาจารย์ผู้สอนทุกท่านที่ชลบุรีสอนขับรถยนต์ ที่เอาใจใส่นักเรียนเป็นอย่างดี ขอบคุณค่ะ คิดถึงกันบ้างนะคะ

หมายเหตุ : ข้อมูลนี้เป็นเพียงความรู้ประกอบขั้นพื้นฐานเท่านั้น บางอย่างก็ค้นหาความรู้เพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ต

 คำเตือน : บทความนี้ถือเป็นลิขสิทธิ์ส่วนบุคคล หากท่านนำไปเผยแพร่
ขอความกรุณาอ้างอิงถึง www.csjoy.com ด้วยและบอกกล่าวที่ csjoyth@hotmail.com จักขอขอบคุณยิ่ง

Student : Kanyapak McManus

Design by Kanyapak McManus : CSJOY.COM
CSJOY.COM WEBBOARD-กระดานสนทนา